20 ข้อควรมีสำหรับนักสะสมพระเครื่อง..มือใหม่
เริ่มต้นสะสมพระเครื่อง..ต้องรู้
และต้องปฏิบัติอย่างไร
ในวงการพระเครื่องบ้านเรานั้น
เรียกได้ว่าเป็นวงการที่รวมเอาสิงห์เหนือ เสือใต้เอาไว้มากมาย
มีทั้งคนดีและคนไม่ดี มีทั้งคนจริงใจ และคนเจ้าเล่ห์ปนเปรวมตัวกันอยู่ในวงการ ดังนั้นคนที่เดินเข้าสู่วงการเล่นพระเครื่องใหม่
ๆ หากเข้ามาโดยไม่มีรุ่นใหญ่สอนสั่ง แนะนำ ชี้ทาง โอกาสเจ็บตัว เจ็บใจ
กลืนเลือดในอก ต้องเจอแน่ ทั้งหมดที่ผู้เขียนรวบรวมทั้งหมดนี้ก็มาจากการศึกษา
เรียนรู้ รวบรวมจากคำสอน คำแนะนำ คำชี้ทางรุ่นใหญ่ รุ่นเก่า ครูบาอาจารย์
ที่ผ่านชีวิตผ่านทางเข้ามา
เท่าที่ผู้เขียนพอจะนึกออกและเชื่อว่าน่าจะครอบคลุมให้รุ่นใหม่ที่กำลังเข้าสู่วงการนำไปเป็นหลักยึดวางกรอบการเดินให้ถูกทิศถูกทาง
ไม่สะดุดอะไรบางอย่างจนต้องหลบออกจากวงการไปเสียก่อน หลักใหญ่ๆ ดังนี้...นะ
1. ต้องมีกล้องส่องชั้นดี
หากเปรียบเทียบว่านักสะสมพระเครื่องเป็นช่าง กล้องส่องพระก็คือเครื่องมือช่างนั่นเอง
ยิ่งเครื่องมือดีมีคุณภาพมากเท่าไรมันก็ยิ่งจะช่วยส่งเสริมการทำงานให้ดีได้มากขึ้นเท่านั้น
การเรียนรู้เกี่ยวกับพระเครื่อง หัวใจสำคัญคือการส่อง การสัมผัสดูด้วยตา
เป็นเรื่องสำคัญ ถ้ากล้องไม่คมชัด ภาพที่โฟกัสก็เห็นของแท้ยาก
2. ต้องมีครูดี
ไม่มีใครรู้ดีไปหมดเสียทุกเรื่อง
หรือเก่งมาเลยตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ ครูบาอาจารย์ที่เก่งๆ
ล้วนผ่านครูบาอาจารย์ดีๆ มาล้วนแล้วทั้งนั้น ทุกคนทุกอาชีพ ทุกวงการ ล้วนต่างก็ต้องผ่านการฝึกฝนจากคนที่เรียกว่า
“ครู” ด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นนักสะสมพระเครื่องหน้าใหม่จำเป็นที่สุด
ขอเน้นคำว่าจำเป็นที่สุกครับ ถ้ารักจะเป็นมืออาชีพ
และเติบโตในวงการพระเครื่องนี้สืบไปในภายภาคหน้าอย่างมั่นคง จะต้องมีครูที่ดี
เพื่อสั่งสอนให้เราเชี่ยวชาญให้การดูพระในสายนั้นๆ
3. มีความเพียร ความพยายาม
และความอดทนสูงมาก
อย่างที่บอกว่าวงการนี้ล้วนมากหน้ามากใจจากเซียน
เทพ เสือสิงห์ ดีเลวปะปนกัน นักสะสมพระเครื่องหน้าใหม่
อาจพบเจอเรื่องราวที่ทำให้เจ็บลึกในหัวอกลูกผู้ชาย ไม่ว่าจะเรื่องอะไร หากเราเข้าใจได้ว่านั่นคือ
ครูผู้ให้บทเรียน และทำใจให้ได้ ประกอบกับการใช้ความเพียรพยายาม และความอดทน ก็จะสามารถไต่เต้าทำตัวเองให้มีความรู้มากขึ้น...บางคนโดนเยาะเย้ยถากถางก็ถึงกับถอดใจ
แต่บางคนกลับเอาคำพูดดูหมิ่นนั้นมาสร้างพลังให้กับตัวเอง ลองคิดดูสิว่า
แล้วทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จในวงการพระเครื่อง นักเล่นพระหน้าใหม่จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องมีความเพียรพยายามและความอดทนให้มากถึงมากที่สุด
4. สัจจะลูกผู้ชาย
เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่อยากเข้ามาอยู่ในวงการพระเครื่องเพราะหากไม่มีสัจจะแล้วล่ะก็...มักจะอยู่ไม่ได้นาน
คือหลอกใครเขาได้แค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น ทีนี้ชื่อเสียงก็จะเสียหาย
และเลยเถิดไปถึงไม่มีใครอยากจะมาเล่นหาคบค้าสมาคมกับคนคดในข้องอในกระดูกด้วย
สัจจะวาจาก็เป็นสิ่งสำคัญพูดอะไรออกไปก็ต้องรักษาคำพูดด้วยไม่ใช่วันนี้พูดอย่างพรุ่งนี้พูดอีกอย่าง...อย่างนี้เรียกได้ว่าเป็นนักเลงพระที่ไร้สัจจะ
วงการนี้ไม่ได้กว้างมากเกินกว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่ถึงหูกัน
ใช้สัญชาติญาณความเป็นนักเลงจริง ก็มีที่ยืนในวงการนี้ได้ไม่ยาก
5.ลำดับเรื่องการเรียนรู้ให้ดี
จัดหมวด หมู่ หลัก ย่อย ให้ชัดเจน พระกรุ พระเกจิ พิมพ์ เนื้อ ศึกษาทีละอย่าง อย่ามั่ว
เอาที่เราชอบก่อนก็ได้ จำเอาไว้ว่าเล่นพระต้องเล่นให้รู้แจ้งชัดเจนเป็นชนิดๆไป
ไม่ใช่อยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ จนตัวเองสับสนไปหมดนักเล่นใหม่ๆ
มักจะกังวลว่าจะรู้น้อยกว่าคนอื่นๆ
ก็แน่ละเราเพิ่งเล่นนี่จะให้เก่งในวันนี้เมื่อก่อนเขาก็ไม่ได้เก่งมาจากไหน
ค่อยๆเรียนรู้กันไปอย่างหักดิบ อย่าเร่ง ดังนั้น
เมื่อเล่นพระจะต้องรู้เรื่องพระเป็นชนิดๆ ประเภทๆ ไป ต่อๆ มาเมื่อเรามีชั่วโมงบินมากขึ้นความรู้ความสามารถในการดูพระชนิดอื่นๆก็จะตามมาเองเพราะส่วนใหญ่แล้วพระหลายๆชนิดก็จะมีหลักการพิจารณาคล้ายๆ
กัน เรียงลำดับการเรียนรู้ดี มีหลักยึดการจัดลำดับความสำคัญ
เดี๋ยวความชำนาญจะพาเราเก่งขึ้นเอง ศาสตร์แขนงนี้ไม่มีทางลัด
6. เสาะหาโอกาสส่องของแท้บ่อยๆ
นักสะสมหน้าใหม่ส่วนมากเลยมักจะทุนน้อยสายป่านไม่ยาว
จะเช่าหลักหมื่น หลักแสน ก็กลัวไปหมด ระยะแรกๆเลยจำเป็นต้องตีตั๋วฟรีไปก่อน
ดูในหนังสือบ้าง เว็บไซต์พระเครื่องทั่วๆไปบ้าง ขอเซียนพระดูบ้าง
สมัยนี้ยังดีนะไม่เหมือนสมัยก่อนกว่าจะได้ดูแต่ละองค์นี่แทบจะคุกเข่าอ้อนวอนกันเลยทีเดียว
แต่เดี๋ยวนี้มีหนังสือตีพิมพ์แพร่หลาย แต่ก็หาที่มีมาตรฐานหน่อยก็แล้วกัน
แต่อย่างไรก็ไม่สมบูรณ์เพราะรูปภาพในหนังสือไม่มีมิติความลึก
และคำนวณขนาดที่แท้จริงไม่ค่อยได้
เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ดีก็ต้องขอดูพระฟรีตามงานประกวดพระ ที่เขาตัดสินแล้วโชว์
หรือเดินตามตู้โชว์พระถ้ามีทุนพอค่อยเช่ามาส่องดูให้รู้แน่แท้ไปเลย
เช่าแล้วก็ต้องถามให้คุ้ม อยากรู้อะไรก็ถามคนที่เราเช่าบูชาเขามาก็จะเป็นการดี
7. ส่องพระด้วยตาและหัวใจ
ไม่ใช่หู
เข้าใจคำว่าส่องพระด้วยตาและหัวใจไหม
ความหมายก็คือใช้ตาดูใช้ปัญญาวิเคราะห์ ไม่ใช่ใช้หูฟัง
คือต้องเชื่อสายตาตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าไม่แน่ใจแล้วค่อยหาตัวช่วย
เพราะบางคนตาจ้องพระ แต่หูกระดิกคอยฟังเสียงว่าคนอื่นโฆษณาว่าอย่างไร
อย่างนี้โดนหลอกแน่นอน เพราะ เอาเป็นว่ามือใหม่หัดเล่นพระควรตั้งสติดีๆ
แล้วใช้ตาดู ไม่ต้องใช้หูฟัง สตางค์ที่มีในกระเป๋าจะได้จ่ายอย่างคุ้มค่าที่สุด
8. หมั่นทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของพระประเภทต่างๆ
พระเครื่องแต่ละองค์ต่างก็มีธรรมชาติของเนื้อพระแตกต่างกันไป
เช่น ธรรมชาติของโลหะ สภาพของพระเนื้อดิน ลักษณะพระเนื้อผง กรรมวิธีการสร้าง เช่น
การหล่อ หรือปั๊ม เรื่องนี้ต้องศึกษากันแบบจริงๆจังๆ ไม่ใช่เรียนรู้ไปแบบผ่านๆ
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในการตัดสินความแท้-เก๊ของพระได้
9. รู้อะไรให้รู้จริงและชัดเจน
หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าต้องเก่งถึงขั้นนั่นแหละคือต้องมีความรู้ในพระที่ตนสนใจแบบให้รู้แจ้งเห็นจริง
ถ้าไม่รู้ก็ต้องสอบถามจากผู้รู้ หรือครูที่เราเคารพนับถือที่รู้จริง หรืออาจจะสอบถามเอากับบรรดาเซียนพระทั้งหลาย
และที่สำคัญจะสอบถามใครก็สอบแบบผู้ใฝ่รู้ มิใช่สอบถามแบบผู้อวดรู้
10.ต้องมีเงินตระเตรียมเอาไว้พอสมควร
แน่นอนเหลือเกิน...เงินเป็นสิ่งที่สำคัญไม่อาจมองข้ามได้
หากอยากเป็นนักสะสมพระเครื่องก็ต้องมีเงินพอสมควรด้วย แต่ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นรวยแล้วค่อยมาเล่นพระเพราะพระเครื่องก็มีหลากหลายระดับมีให้เลือกหลายราคา
หากรอให้รวยเสียก่อนบางทีเมื่อถึงเวลานั้นมันอาจจะสายเกินไปแล้วสำหรับโอกาสที่จะได้พระเครื่องดีๆ
11.กล้าตัดสินใจ
นั่นก็คือเมื่อรู้ว่าพระเครื่องนั้นแท้แล้วก็จะต้องรู้จักประมาณการว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม
สมควรที่จะเช่าในราคานี้แล้วหรือยัง ความลังเลบางทีก็ทำให้เราพลาดโอกาสได้พระเครื่องดีที่อยู่ในกำมือของตัวเองแท้ๆ
ได้เหมือนกัน
12. มีบุญกับพระเครื่องนั้น
บางครั้งเราก็ได้พระดีๆโดยไม่ได้ตั้งใจ ได้มาให้แบบไม่รู้ตัว
นั่นแหละเขาเรียกว่ามีบุญญาบารมีต่อกัน อันนี้เป็นเรื่องที่แข่งกันไม่ได้อย่างที่โบราณเขาว่าแข่งเรือแข่งพายยังจะพอแข่งกันได้
แต่แข่งบุญแข่งวาสนานั้นมันแข่งกันไม่ได้
ดังนั้นนักเล่นพระที่ดีเมื่อมีโอกาสควรจะสวดมนต์ไหว้พระ
และหมั่นทำบุญทำทานอยู่เสมอ แล้วบุญจะหนุนนำคนทำดีให้ได้พระดีๆ เอาไว้ครอบครองเอง
13.ไม่เที่ยวไปตำหนิติเตียน
หรือไปวิพากษ์วิจารณ์พระเครื่องของผู้อื่นจนเสียหาย
เพราะนั่นถือได้ว่าเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่างมาก
แล้วยิ่งถ้าพระองค์นั้นเป็นพระแท้แล้วไปว่าตำหนิว่าเป็นของเก๊
อันนี้ก็จะเป็นการสร้างศัตรูให้กับเราโดยใช่เหตุ หากดูแล้วไม่ชอบก็ควรจะหลีกเลี่ยงไปเสียหรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรจะใช้คำว่า
“ไม่ค่อยถนัดพระสายนี้”
14. อ่อนน้อมถ่อมตนไม่คุยโวโอ้อวดหรือดูถูกผู้อื่น
การเป็นเซียนพระที่สุภาพก็จะไม่ไปสร้างความหมั่นไส้
หรือไปรบกวนอวัยวะเบื้องต่ำของผู้ใด เราก็อยู่ของเรา
ทำมาหากินของตนไปอย่างสุจริตด้วยความสบายใจจะดีกว่า
15.ก่อนหยิบพระต้องขออนุญาตเจ้าของพระก่อนที่จะส่องพระเครื่องของเขา
การดูพระของคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตถือว่าเป็นการไม่สุภาพอย่างยิ่ง
หากจะขอดูพระของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นพระที่เก็บเอาไว้นากล่องหรืออยู่บนคอ
เราควรรอให้เจ้าของเป็นผู้หยิบออกมาส่งให้ ยิ่งไปกว่านั้นพระที่ใส่ในตลับหากเราต้องการจะถอดออกมา
เรายิ่งควรจะขออนุญาต หรือให้เจ้าของพระเป็นผู้ถอดออกมาให้เราดูจะเป็นการดีที่สุด
และที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไรก็ตามหลังจากดูพระเสร็จแล้วควรจะเอ่ยปาก
“ขอบคุณ” แล้วจึงส่งพระคืนให้กับเจ้าของโดยตรง
ไม่ควรยื่นให้กับผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของพระ
16.ควรระมัดระวังในการถือพระขณะส่องพระของผู้อื่น
หากเราดูพระผู้อื่นด้วยความระมัดระวัง เจ้าของพระที่ให้เราดูก็จะเกิดความสบายใจ
ในการจับองค์พระให้จับด้วยมือซ้ายขององค์พระและใช้นิ้วชี้จับทางด้านขอบบนขององค์พระใช้อุ้งมือเป็นที่รองรับ
หากพระเครื่องติดอยู่กับสร้อยคอก็ให้นำสายสร้อยพันที่นิ้วเพื่อป้องกันพระหลุดมืออีกชั้นหนึ่ง
อย่างไรก็ตามไม่ควรจับพระพลิกไปพลิกมาจนเกินเหตุ
ค่อยๆดูของเขาเพราะพระไม่ใช่ของเรา
17. ไม่ควรแย่งดูพระในขณะที่ผู้อื่นกำลังดูอยู่
การที่จะเข้าไปแย่งพระที่ผู้อื่นกำลังส่องพิจารณาเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก
ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
บางครั้งอาจทำให้พระเครื่องหลุดจากมือได้..แล้วทีนี้ใครล่ะจะรับผิดชอบ
18. เมื่อดูพระของผู้อื่นแล้วพบว่าแท้ต้องรู้จักชมเชย
เมื่อชมเชยแล้วก็ควรกล่าวขอบคุณและชมเชยน้ำใจเพื่อให้เจ้าของพระเกิดความภาคภูมิใจ
ข้อนี้เป็นมารยาทที่ดี และจะสร้างให้มีมิตรไมตรีที่ดีต่อกันตลอดไป
19.ไม่ควรขูดขีดพระเครื่องเพื่อดูเนื้อในของพระ
การทำอย่างนี้เป็นการเสียมารยาทมาก
แหม...เขาให้ส่องดูก็ดีแล้วยังไปทำให้พระของเขาเป็นตำหนิอีก
บางท่านชอบนำพระเครื่องที่ดูอยู่ไปขัดถูเข้ากับความมันบนใบหน้าเพื่อจะดูว่าพระองค์นั้นจะมีความหนึกนุ่มมันวาวขนาดไหน
พฤติกรรมเยี่ยงนี้เป็นที่น่ารังเกียจ อย่ากระทำโดยเด็ดขาด
20. นักสะสมหน้าใหม่ควรมีความรู้เบื้องต้นในการทำความสะอาดพระเครื่อง
ไม่ควรทำความสะอาดจนเสียเนื้อพระควรทำความสะอาดพระเครื่องแต่พอควรโดยควรใช้วิธีที่อ่อนโยนด้วยการใช้น้ำอุ่นๆ
ล้างแล้วใช้สำลีเช็ด ไม่ควรใช้วัสดุที่กัดเนื้อพระให้เสียหาย
หากเป็นเหรียญเนื้อโลหะอาจจะใช้เครื่องดื่มชูกำลังล้างความสกปรกออกจากเหรียญได้
แต่อย่าแช่ทิ้งไว้นานเกินไปเพราะเหรียญจะสึกกร่อนได้ แช่ไว้สัก 5นาทีก็พอแล้ว ต่อไปก็ล้างน้ำสะอาดพร้อมซับให้แห้ง
ท้ายนี้ก็หวังว่า
ข้อแนะนำที่รวบรวมมาจากคำสอนของรุ่นใหญ่ ที่แนะนำสอนสั่งกันต่อๆ
มาเท่าที่รวบรวมได้ประมาณนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อนักสะสมพระเครื่องมือใหม่
ที่กำลังไต่เต้าขึ้นเป็นมืออาชีพ
ได้นำไปศึกษาถือปฏิบัติเพื่อให้อยู่ในวงการได้อย่างราบรื่น
และประสบความสำเร็จดั่งตั้งใจ
ก็ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในวงการพระเครื่องเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปครับ